ช่วงนี้อยู่บ้าน เวลาว่างก็เยอะ การเรียนก็ไม่มี เลยมีเวลาฟุ้งซ่านได้มากหน่อย
นั่งเล่นอินเทอร์เน็ต ดูทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆ ก็คิดถึงช่วงชีวิตสมัยมัธยมปลายขึ้นมา
ช่วงมัธยมปลายมันเป็นช่วงชีวิตที่ดูสดชื่น ดูอะไรแปลกใหม่ มีชีวิตชีวา
มันเป็นเหมือนความแปลกใหม่ครั้งแรกหลังจากที่เปลี่ยนคำนำหน้าจากเด็กๆ เป็นนายล่ะมั้ง
ทั้งเครื่องแบบใหม่ เพื่อน(อาจจะ)ใหม่ รูปแบบการเรียนที่มีการแบ่งสายกันชัดเจน กิจกรรมต่างๆ ที่มากขึ้น ทั้งในและนอกโรงเรียน
รวมถึงชีวิตนักเรียนที่มี "อิสระภายในกรอบ"
แต่ก็มีความสุขไปกับมันนะ…
มัธยมสามารถทำอะไรกุ๊กกิ๊กๆ โดยที่มันยังดูน่ารักมากกว่าเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย
มันอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรกมั้ง มันเลยดูน่าตื่นเต้น น่าสนุก น่าค้นหาไปกับมัน
แต่ทำไมตอนเข้ามหาวิทยาลัย อารมณ์แบบนี้มันกลับหายไปนะ…
ทั้งๆ ที่ชีวิตมีอิสระ ทำสิ่งที่อยากทำในช่วงที่มัธยมไม่สามารถทำได้
แต่ทำไม……………..มันถึงหายไป???
————————————————————————————-
เพราะว่าถึงแม้จะทำในสิ่งที่ช่วงมัธยมทำไม่ได้
แต่ก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่ช่วงมัธยมทำได้เหมือนกัน
อาจเป็นเพราะอายุที่มากขึ้นด้วยล่ะมั้ง…มันเลยคิดอะไรแบบที่เมื่อก่อนไม่ค่อยได้คิด
หรือเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมใหม่ อะไรใหม่ๆ ที่เข้ามาอย่างรวดเร็วจนปรับตัวไม่ทัน
เอาเถอะ…ชีวิตยังไงมันก็ต้องก้าวต่อไป สิ่งที่ผ่านไปแล้วให้มันเป็นอดีตที่น่า(หรือไม่น่า)จดจำไปเถอะ
………………………………………………
เพราะสุดท้าย…ปลายทางของชีวิตทุกคนก็เหมือนกัน…
Tags: ชีวิต
ไม่แน่ใจว่ามันคือคำตอบของสิ่งที่ค้างคาใจมานานตลอดหลายเดือนหรือเปล่า
คำพูดของรุ่นพี่ที่ปรามการกระทำบางอย่างของกู มันคือสิ่งที่ทำให้กูกลายเป็นเหมือน “คนละคน” ระหว่างเพื่อนที่คณะกับเพื่อนเก่าที่เจอกันหรือเปล่า?
หรือว่า กูไม่สามารถปรับตัวให้เป็นไปตามคนในคณะได้
หรือว่า กูไม่สามารถอดรนทนรอให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้
หรือว่า ?????????
สรุปแล้ว ย่อหน้าข้างบนมันใช่คำตอบของปัญหาจริงหรือเปล่า?
………………………………
……………………………
…………………………
………………………
……………………
…………………
………………
……………
…………
………
สงสัยต้องหาคำตอบตอนกลับมาเทอมปลายแล้วล่ะ…
อนาคตกูคงขึ้นกับเทอมนี้แล้วล่ะนะ
Tags: เพื่อน
หลายคนอาจสงสัยว่าในทวิตเตอร์ของกูมันพร่ำเพ้อห่าเหวอะไรนักหนา
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ระบายออกมาเป็นบล็อกไปเลยดีกว่า
สิ่งที่อยากจะบอก
สิ่งที่ต้องการ
เท่านี้แหละ ไม่รู้จะเขียนอะไรไปมากกว่านี้แล้ว…
อยากเขียนบล็อกที่ระบาความรู้สึกที่ผ่านมาสักที แต่ก็ไม่มีโอกาส ได้แค่พล่ามลงไปใน Twitter ไปเรื่อยๆ ไม่ได้แก่นสารอะไร
ไหนๆ ก็ไหนๆ หาเวลา + อารมณ์ปลีกตัวมาเขียนได้แล้วก็นะ เริ่มเลยดีกว่า
– เปิดเทอมมาได้เกือบๆ 3 เดือนล่ะ ในรั้วมหาวิทยาลัยนี่ก็มีอะไรน่าทำเยอะแยะเลยนะ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ได้ทำสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เวลามันก็พอมีนะ
อาจเป็นเพราะความขี้เกียจ หรือมีอะไรบางอย่างที่ปิดกั้นโอกาสนั้นไป?
– สิ่งที่อยากทำอย่างนึงก็คือการเข้าไปทำความรู้จักเพื่อนต่างคณะสักหน่อย เพราะจริงๆ ตึกเรียนนั้นก็ไปอาศัยหยิบยืมชาวบ้านเขาหมด (ทั้งตึกมหิตลาธิเบศร ตึกพินิจประชานาถ ไม่ใช่ตึกคณะตัวเองทั้งนั้น…) เจอนิสิตคณะอื่นเขาผูกเน็กไท ใส่รองเท้าขาวมีถุงเท้าก็อยากเข้าไปคุยบ้าง (ไม่ได้ม่อนะโว้ย!) แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี…
หลายคนก็บอกว่าการเข้าชมรมก็เป็นหนทางดีในการทำความรู้จักกับเพื่อนต่างคณะ แต่ช่วงที่เปิดชมรมก็ดันไม่ได้ไปดูซะนี่… (เพราะอะไรเดี๋ยวเขียนต่อ) ไอ้ที่เจอๆ กันริมทางจะเข้าไปทักก็เดี๋ยวเขาจะตกใจ หรืองงว่ามึงจะมาทำอะไรกู เพื่อนในห้องเรียนวิชาเรียนรวมก็อยากไปคุยนะ แต่ก็เหมือนเดิมว่ามันไม่กล้าเข้าไป
ยังดีที่ได้เข้าชมรมสภานิสิต (ไหนบอกเข้าไม่ทันไง?) ก็เลยพอมีเพื่อนอยู่ครุบ้าง อยู่บริหารบ้าง รวมทั้งเพื่อนที่เคยคุยกันในเน็ตกับที่เคยเจอตอนไปเข้าค่าย ก็ยังดีที่มีเพื่อนบ้างนิดหน่อย (ถึงแม้โอกาสในการคุยจะน้อยเหลือเกิน)
สรุป จะทำยังไงดีหว่า…
– เรื่องต่อมามาพูดถึงคณะดีกว่า เข้ามา 3 เดือนกว่าๆ (รวมปิ๊ดปิ้ว) ก็ได้ทำความรู็จักเพื่อนไปเยอะอยู่ รุ่นพี่ด้วย แต่ก็เหมือนกัน มันก็เหมือนแค่รู้จัก ไม่ได้คุย ไม่ได้สนิทอะไรด้วยมากเท่าคนอื่น
เวลาเห็นเพื่อนคนอื่นเขาคุยกันสนุกสนาน ก็อยากเข้าไปร่วมวงด้วย จริงๆ แล้วมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่เวลาส่วนใหญ่ก็มาอยู่กับตัวเองมากกว่า
บางเวลามันก็อยากจะมีใครบางคนมาอยู่ข้างๆ เหมือนกันนะ ยิ่งเวลาเห็นเพื่อนผู้หญิงเขาสนิทสนมกัน กอดกันนี่ยิ่งรู็สึกหนักไปกันใหญ่…
พูดถึงกิจกรรมในคณะบ้าง จะว่ามันเยอะไหมก็ไม่เยอะนะ แต่ว่ามันเป็นกิจกรรมใหญ่เท่านั้นเอง มันก็คือละครเวทีนั่นแหละ เตรียมการมานานตั้งแต่เปิดเทอม มาเริ่มต้นจริงจังก็หลังห้องเชียร์ แล้วก็เรื่อยมา กิจกรรมใหญ๋ก็เป็นสิ่งที่วัดได้เหมือนกันในเรื่องของการจัดสรรเวลา บางคน (เช่นกู) จัดสรรเวลาไม่ดี แบ่งเวลาไม่ถูก ก็พาลทำให้การเรียนเสียตามไปด้วย (โถ…พ่อคนขยัน ถุย!) เป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ
จริงๆ มันก็อยากเขียนต่ออีกหล่ะนะ แต่แม่งขี้เกียจอีกแล้ว! แล้วอารมณ์ในการเขียนก็ดันหมดอีกแล้วนะสิ
เมื่อไหร่อาการแบบนี้มันจะหายไปสักทีวะ!
Tags: มหาวิทยาลัย, เพื่อน
หลังจากวันรับปริญญาของพี่ๆ รุ่น 42 เขาก็เลยมีการเลี้ยงฉลองสักหน่อย
ในร้านไม่อนุญาตให้ใส่แตะนะครับ แต่วันนี้อนุโลมให้ แต่ต้องมีถุงเท้า
อ้าวห่า กูไม่เคยเข้าผับ กูจะรู้เหรอว่าต้องใส่ผ้าใบ (ดีที่ไปกับรุ่นพี่คนนึง เขาให้ยืมถุงเท้า)
(ต่อมาแม่งเสือกบอกว่าเข้าได้เลย อนุโลมให้ ไอ้ห่า!!!)
เอาล่ะ มาถึงความรู้สึกส่วนตัวดีกว่า
จบล่ะ…ขี้เกียจพิมพ์ล่ะ
ปล1.ไม่มีรูปค่ะ เพราะขี้เกียจถ่าย…
ปล2.เอ ช่วงนี้เป็นอะไร ขยันอัพบล็อก…
ปล3.เมื่อไหร่กูจะทำงาน Exp Eng วะ!
ปล4.จะไปรับน้องที่เขาใหญ่นะเออ ถ้าขยันอาจมีรูป
เอาล่ะ ไม่ได้เขียนบล็อกมาซะนาน…
ไหนๆ ก็จะครบ 1 เดือนในการเรียนที่สถานศึกษาแห่งใหม่ (ที่แสนจะไกลบ้าน) ก็อยากจะเขียนความรู้สึกที่ผ่านมาตลอดช่วงที่ผ่านมาเลยแล้วกัน
– ตั้งแต่ First Date , สัมภาษณ์ , รับน้องปิ๊ดปิ้ว , เปิดเทอม , ห้องเชียร์ , ทำละคร ก็เหมือนเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น ได้คุยมากขึ้น (ถึงแม้บางคนก็ไม่เคยคุยกันเลยก็ตาม)
– ช่วงเวลาแย่ๆ ห่วยๆ ก็ผ่านมาแล้ว ทั้งช่วงห้องเชียร์ (ห้องเชี่ย) ที่บรรยากาศภายในจะบิ้วท์ไปทำซากมะเขืออะไร ไม่เข้าใจจริงๆ มึงสั่งดีๆ กูก็ทำได้ ห่าน!
– กิจกรรมต่างๆ ทั้งคิดท่าเต้นรุ่น , เปิด-ปิดกีฬาเฟรชชี่ รวมทั้งกิจกรรมที่พี่จัดให้ทั้ง เปิดสายปีสอง , รับน้องปีสาม-ปีสี่ ก็ทำให้สนิทสนม(?) กับรุ่นพี่มากขึ้น
– แต่ยังไงๆ อารมณ์เดิมๆ ก่อนที่จะเข้ามาในคณะ กับอารมณ์ตอนนี้ที่ยังเป็นอยู่ก็ยังเหมือนเดิม เบื่อๆ เซ็งๆ ไม่อยากเจอหน้าคนบ้างในบางเวลา
– รู้สึกที่กูเขียนมานี่ไม่มีสาระอะไรเลยแฮะ…
– จบล่ะ เดี๋ยวเอาไว้เขียนต่องวดหน้าที่มีอารมณ์ดีกว่า…
ปล.งวดนี้ไม่มีรูปนะจ๊ะ
ปล2.รูปงานต่างๆ ที่ถ่ายมามีเยอะ แต่ขี้เกียจอัพนะจ๊ะ
ปล3.กูเกลียด Exp Eng!
วันนี้ไปทำซิมใหม่ เนื่องจากซิมเก่า (ซิมตัด)? มันใช้กับสัดวันไม่ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปทำใหม่เลยดีกว่า
ที่ทำก็ทำทั้ง 2 ระบบ (ทั้ง True และ AIS) ทำให้เห็นความแตกต่างของการทำซิมใหม่
True
AIS
หวังว่าคงไม่ต้องไปทำซิมใหม่อีกรอบนะ กูเบื่อ…
การได้กอดใครสักคนนึง แล้วเขายินดีที่จะรับอ้อมกอดเรา
มันเป็นอะไรที่อิ่มเอมสุดๆ จริงๆ
ดีใจที่สุดแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องการอะไรแล้วครับ…
สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านบล็อกทุกท่านครับ
ในปีใหม่นี้เว็บนี้ก็มีอะไรใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในเบื้องหลัง
ทั้งโฮสใหม่ และที่จดโดเมนใหม่
หวังว่าคนเขียนคงมีมุกใหม่ๆ มาเขียนนะจ๊ะ?
สวัสดีสุมนต์รัตน์ครับทุกท่าน!
หลังจากที่อยู่บ้านหลังเดิม (openfreehost) มาเกือบจะครบปีแล้ว ก็รู้สึกว่าต้องมีการขยับขยายอะไรบ้างแล้ว (ทั้งๆ ที่บล็อกก็สุดแสนเงียบเหงาอยู่แล้วนี่หว่า…)
ก็เลยจะทำการหาบ้านใหม่ จนสุดท้ายก็มาอยู่ที่ tangmohosting ด้วยสัญญา 2 ปี
กว่าจะเซ็ตค่าอะไรเรียบร้อยก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
หวังว่าคราวนี้บ้านใหม่คงจะไม่มีปัญหาอะไรนะจ๊ะ…