จากการไปแข่งขันตอบปัญหาเศรษฐกิจการเงิน กับ ธปท. งวดที่แล้วที่พลาดไป ก็หวังไว้ว่าเราต้องฟิตซ้อม ตั้งใจมากกว่านี้
เพื่อการแข่งขันงวดนี้ครับ ?การแข่งขันเศรษฐศาสตร์เพชรยอดมงกุฎ : เงินทอง ของมีค่า และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 1?
———————————————————
การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงมาจากการแข่งขัน ?เงินทองของมีค่า The Champion? ที่จัดกันมาหลายปี โดยร่วมกับมูลนิธิร่มฉัตร เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันในโครงการ ?เพชรยอดมงกุฎ? ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2
การแข่งขันก็เป็นอย่างนี้ครับ
– รอบแรก รอบเจียระไนเพชร จะมีข้อสอบ 100 ข้อเพื่อคัดเลือกคนที่ได้คะแนนมากที่สุด 10 อันดับแรก
– รอบสอง เพชรยอดมงกุฎ จะคัดเลือกเอา 10 คนที่ผ่านรอบแรกมาแข่งขันต่อ เพื่อคัดเอา 3 คนสุดท้ายไปในรอบสุดท้าย
– รอบสุดท้าย เป็นการแสดงความคิดเห็นจากภาพที่ได้เห็น และตอบคำถามจากกรรมการ 1 ข้อ
สำหรับรางวัลนั้นก็มีดังนี้ครับ
มาพูดถึงบรรยากาศดีกว่า
ที่รับลงทะเบียนก็มีการนำเด็กนักเรียนที่โรงเรียนมาเป็นเจ้าหน้าที่ในการรับลงทะเบียน ก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย
รอบแรก หลังจากสอบเสร็จแล้ว ความมั่นใจก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ เฉยๆ ไปเรื่อยๆ สอบเสร็จก็นั่งรถไปเที่ยวเดอะมอลล์ซะอย่างนั้น
ในกำหนดการ บอกว่าจะประกาศผลตอนบ่ายโมง เริ่มแข่งรอบต่อไปบ่ายโมงครึ่ง แต่พอออกจากเดอะมอลล์บ่ายโมงสิบ ไปถึงโรงเรียนบ่ายโมงครึ่ง ในใจคิด ฉิบหายแล้วกู
ที่ไหนได้ มันยังไม่ประกาศผลเลย?ไปถึงเด็กรออยู่เต็มเลย ก็ไปร่วมรอฟังด้วย ในใจนึงก็คิดว่า คงไม่ติดหรอก พอประกาศไปถึงลำดับที่ 9 เฮ้ย ชื่อกูนี่หว่า รู้สึกอึ้งเล็กน้อย
ในรอบสุดท้ายนี่มีทั้งหมด 12 คนเนื่องจากอันดับ 10 มีทั้งหมด 3 คน มีทั้งเตรียมอุดมฯ , มหิดลฯ , เทพศิรินทร์ ซึ่งหลายคนก็เคยเข้าแข่งขันในปีที่แล้ว ในรอบนี้จะมีคำถามให้ทำ 10 ข้อในเวลา 7 นาที ซึ่งสองข้อสุดท้ายเป็นการคำนวณด้วย
ไม่น่าเชื่อครับ หนึ่งในสามมีกูด้วย (อีกสองคนมาจากเทพศิรินทร์ และมหิดลวิทยานุสรณ์)
รอบสุดท้ายก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ
สุดท้าย ผลออกมา ได้รางวัล ?รองชนะเลิศอันดับ1? ครับ
ไม่น่าเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ ดีใจเหมือนกันครับ
หลังจากจบการแข่งขันนี้ ก็ถือว่าการเดินสายแข่งขันก็จบลงไปแล้ว
ต่อไปก็เข้าสู่ช่วงที่ต้อง ?ทำเพื่ออนาคตตัวเอง? ในการศึกษาต่อแล้วละครับ!
Tags: เงินทองของมีค่า, เพชรยอดมงกุฎ, เศรษฐศาสตร์, แก่นนครวิทยาลัย
วันนี้ที่คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็มีการแข่งขันตอบปัญหาเศรษฐกิจการเงินกับ ธปท. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ลักษณะการแข่งขันก็จะเป็นการแข่งขันตอบปัญหาเป็นทีม ทีมละ 2 คน โดยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า แล้วคัดเอานักเรียนที่มีคะแนนดีที่สุด 6 ทีมไปแข่งขันต่อในรอบชิงชนะเลิศ โดยทั้งหมดเสร็จสิ้นใน 1 วัน
เอาละ อย่าเกริ่นนาน มาพูดถึงบรรยากาศดีกว่า
(อ้าว แล้วแก่นนครหายไปไหน? อ่อ ตกรอบนั่นเอง?)
รางวัลของการแข่งขันจะมี 2 ประเภท คือประเภทบุคคล (ในรอบคัดเลือก) และประเภททีม(ในรอบชิงชนะเลิศ)
ประเภทบุคคล
- รางวัลที่ 1 ประเภทบุคคล 10,000 บาท
- รางวัลที่ 2 ? 5,000 บาท
- รางวัลที่ 3 ? 4,000 บาท
- รางวัลชมเชย (22 คน) 3,000 บาท
ประเภททีม
รางวัลที่ 1 โรงเรียนได้ 100,000 บาท นักเรียนได้คนละ 10,000 บาท รางวัลที่ 2 โรงเรียนได้ 50,000 บาท นักเรียนได้คนละ 5,000 บาท รางวัลที่ 3 โรงเรียนได้ 40,000 บาท นักเรียนได้คนละ 4,000 บาท รางวัลชมเชย โรงเรียนได้ 20,000 บาท นักเรียนได้คนละ 3,000 บาท (3 โรงเรียน)
การแข่งขันก็เข้มข้นจนถึงข้อสุดท้ายครับ เมื่อเดชอุดมกับขอนแก่นวิทยายนได้คะแนนเท่ากัน จนต้องตัดสินด้วยคำถามสำรอง โดยจะแข่งก่อน 3 ข้อแรก ถ้าใครได้คะแนนมากกว่าก็จะชนะไป
ปรากฏว่ายังไม่ได้ผู้ชนะ เลยต้องแข่งแบบ Sudden Death ปรากฏว่าต้องลากยาวไปถึงข้อที่ 14 ถึงจะรู้ผลแพ้ชนะกันเลยทีเดียว (ยาวจนต้องเอาเกมบิงโกแจกของมาคั่นทีเดียว)
ซึ่งผู้ชนะก็คือโรงเรียนเดชอุดมนั่นเอง (หลังจากที่ปีที่แล้วก็ส่งทีมเข้าแข่ง และเข้ารอบสุดท้ายด้วย แต่ได้รางวัลชมเชย – คนเดิมด้วยนะ อีกอย่าง พอตอบถูกถึงกับดีใจจนเสียน้ำตาเลยทีเดียว)
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รางวัลอะไรก็ตาม แต่เพื่อนผมก็ได้รางวัลประเภทบุคคล ได้เงินมา 3,000 บาท (อย่าลืมเลี้ยงนะมึง)
และตัวผมเองก็ได้อะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน
ไม่เป็นไร เอาไว้แก้ตัวใหม่กับรายการตอนสิ้นเดือน (เศรษฐศาสตร์เพชรยอดมงกุฏ) ที่สตรีวิทยา2 ก็ได้วะ! (เพิ่มเติม…)
Tags: ธปท, เศรษฐศาสตร์, แก่นนครวิทยาลัย
เมื่อมาถึงช่วง ม.6 ก็ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการเรียนต่อของนักเรียนสายสามัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่ของนักเรียนสายสามัญก็คือ ?การเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา? โดยเฉพาะ ?การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยระบบปิด? ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่จะนำมาซึ่งหลายๆ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น (ถึงแม้ว่าที่นั่งในนั้นจะมีน้อยก็ตาม)
ซึ่งการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยระบบปิดในปีการศึกษา 2553 นี้ก็มีอยู่ 2 ระบบใหญ่ๆ คือ
– ระบบรับตรง ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะเปิดรับสมัครเอง ในสาขาต่างๆ
– ระบบกลาง (Admission) ซึ่งดูแลโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
ในระบบรับตรง แต่ละคณะของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเกณฑ์ต่างๆ ตามความต้องการของมหาวิทยาลัยนั้นๆ ส่วนระบบกลางจะมีการกำหนดเกณฑ์ล่วงหน้า เพื่อการเตรียมตัว
แน่นอนว่าระบบกลางนั้น คณะที่เปิดรับจะมากกว่า และมีการรับนักศึกษาในอัตราที่ค่อนข้างมากกว่าระบบรับตรง
แต่ในปีนี้ระบบรับตรงบางมหาวิทยาลัย ก็มีการรับนักศึกษาในอัตราที่มาก และบางคณะก็ใช้เพียงวิธีการรับตรงเพียงอย่างเดียว
—————————————————-
เกริ่นมานาน เข้าเรื่องดีกว่า
ตอนนี้ผมก็เกิดอาการลังเลว่า จะเข้าเรียนต่อในคณะไหนดี และที่ไหนดี
– ใจนึงก็อยากเรียนนิเทศศาสตร์ แต่ถ้าจะเข้าก็ต้องรอเข้าในระบบกลาง เพราะระบบรับตรงมันไม่ค่อยรับ ไม่ก็รับน้อย(มาก?)
– ใจนึงก็อยากเรียนเศรษฐศาสตร์ เพราะมันมีในระบบรับตรง อัตรารับพอสมควร แต่ก็ยังสองจิตสองใจ ไม่มั่นใจในความถนัด
– ใจนึงก็อยากเข้าในระบบรับตรง เพราะไม่อยากไปลุ้นกับคะแนนที่จะออกมา ไม่อยากเหนื่อยหลายรอบ
– อีกใจก็อยากไปเข้าระบบกลางเพราะมีคณะที่อยากเข้า ที่สนใจ
แต่ถึงเวลานี้ มันถึงเวลาที่ต้องเลือกแล้วล่ะครับ!!!
ปล.วันนี้วันสุดท้ายที่ส่งผลงานเข้านิเทศฯ จุฬาฯ (รับตรง) นี่หว่า?
ปล2.พรุ่งนี้ (15/8) กูไปแข่งเศรษฐศาสตร์ฯ ธปท. ด้วย จะรอดไหมกู?
Tags: มหาวิทยาลัย, รับตรง, แอดมิชชั่น